ทำไมคนสมัยก่อนรบกันไม่กลัวตายเลย

เห็นตามหนังต่างๆ รบกัน สุดท้ายก็เป็นศพเกลื่อน คือเหมือนรู้ทั้งรู้ ว่าออกมาก็ตาย ทำไมถึงยังกล้าออกมา เลือดรักชาติสมัยก่อนเยอะขนาดนั้นเลยเหรอ
สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 33
สงครามก่อนยุคอาวุธดินปืนนั้นมีอัตราสูญเสียจากการปะทะจริงๆไม่ค่อยสูงมากครับ แต่อัตราการสูญเสียจากเหตุการณ์รอบด้านน่าจะสูงมากกว่า

1) ในสมัยโบราณนั้น กองทหารที่ถือดาบหรือหอกหรือหน้าไม้ ไม่ได้มีอัตราที่จะสังหารคู่ต่อสู้ได้มากนักครับ อย่างเก่งเวลารบกัน คุณสังหารทำให้ศัตรูหมดสภาพต่อสู้ได้สัก 10 คน คุณก็หมดแรงข้าวต้มแล้ว ไม่เหมือนปืนที่กราดยิงได้นับสิบโดยไม่เหนื่อยเท่าไหร่

2) กองทหารสมัยโบราณเอาจริงๆ ไม่ได้มีจำนวนมากมายมหาศาลแบบที่โม้กันในหนังสือหรือประวัติศาสตร์ครับ และคนที่เข้าปะทะจริงๆมีน้อยกว่านั้นอีก
สมมติกองทัพที่มีทหาร 10 หมื่น นักรบจริงๆอาจจะมีแค่ 3 หมื่นคน ที่เหลือเป็นหน่วยพลาธิการ, หน่วยสนับสนุน และหน่วยขนส่ง ครับ ซึ่งไม่ได้เข้าปะทะในการรบด้วย

3) สมัยก่อนนั้นอัตราการแตกทัพหนีค่อนข้างสูง หากรบในศึกแรกไม่ชนะและเริ่มยืดเยื้อ ปริมาณทหารหนีทัพจะเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วจนสายบังคับบัญชาพังทลายครับ รวมถึงอัตราการตกเป็นเชลยศึกก็มาก เพราะฝ่ายตรงข้ามมักจะไม่ฆ่าเชลยศึก แต่จับมาเป็นทหารกองหน้าบ้าง เอาไปเป็นทาสบ้าง เอาไปใช้แรงงานบ้าง

4) สงครามโดยทั่วไปตามรูปแบบ มักจะไม่ค่อยฆ่าล้างกันหมดเมืองหรือหมดกองทัพ แต่จะเน้นยึดไพร่พล ทรัพย์สิน และปล้นสมดภ์จับเชลยเป็นหลัก เพราะคนเป็นทรัพยากรที่สำคัญ
ชาวยุโรปและเอเชียที่มาอารยธรรมแล้ว เจอพวกมองโกลเลยสะพรึงกลัวมาก เพราะพวกนี้รบแบบปล้นสดมภ์แตกต่างไปจากการรบที่อารยธรรมต่างๆนิยมกัน

5) ลองเทียบกับพวกนักเลงตีกันก็ได้ครับ ขนาดมีอาวุธมีคมบ้างไม่มีคมบ้าง ส่วนใหญ่มักจะได้รับบาดเจ็บมากกว่าตายครับ เพราะการใช้อาวุธมีคมแบบโบราณฆ่าคนจำนวนมากๆ เป็นเรื่องที่ลำบากพอสมควร

6) การตายจริงๆที่เกิดในสงครามนั้น ส่วนใหญ่เกิดจากความอดอยาก ตามด้วยโรคภัยไข้เจ็บ การถูกใช้แรงงานอย่างหนัก การขาดสุขลักษณะที่ดีของเมืองที่ถูกปิดล้อม เสียมากกว่า
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่